Water purifier

ทำความรู้จัก เครื่องกรองน้ำในครัวเรือน ให้มากขึ้นกันดีกว่า

Water purifier

ทำความรู้จัก เครื่องกรองน้ำ ในครัวเรือน ให้มากขึ้นกันดีกว่า

เป็นที่เข้าใจกันว่า น้ำที่เราใช้ดื่มนั้นไม่ได้สะอาด 100% แน่นอน ยิ่งเป็นน้ำจากแหล่งน้ำดิบต่างๆ เช่น น้ำประปา หรือน้ำบ่อผิวดิน แล้วยิ่งมีสารปนเปื้อนเยอะ ทั้งโลหะหนัก ฟลูออไรด์ และสารอื่น ๆ ที่เป็นอันตรายกับร่างกายอีกหลายชนิด ดังนั้นเครื่องกรองน้ำจึงถูกผลิตมาเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยขจัดสารปนเปื้อน เชื้อโรค แบคทีเรีย หิน ปูน และสารเคมีต่าง ๆ ที่ปนมากับน้ำที่เราใช้ดื่ม หลายท่านคงคุ้นเคยกับเครื่องกรองน้ำดื่มเล็ก ๆ ที่ติดตั้งอยู่ในห้องครัว ซึ่งเครื่องกรองน้ำ ในยุคสมัยนี้แทบจะมีติดอยู่ทุกครัวเรือน แต่แต่สิ่งสำคัญในการใช้เครื่องกรองน้ำคือ การทำความสะอาดด้วยการเปลี่ยนไส้กรอง ซึ่งแต่ละชนิดก็มีอายุใช้งานต่างกัน ยิ่งเจอสภาพน้ำกร่อย หรือน้ำเค็มเนื่องจากสภาพแวดล้อมอย่างน้ำทะเลหนุนสูงด้วยแล้ว ควรเปลี่ยนชุดไส้กรองเพื่อให้น้ำดื่มจะสะอาด ปลอดภัยต่อสุขภาพคนในบ้านอย่างแท้จริง

จริงๆ แล้ว เครื่องกรองน้ำ หรือระบบกรองน้ำนั้นสามารถแบ่งได้เป็นหลายประเภท ตั้งแต่ประเภทน้ำดื่มและน้ำใช้ หรือจะแบ่งตามลักษณะการกรองก็ได้

ระบบน้ำใช้ (Whole House Water Filter System)
เป็นระบบกรองน้ำที่มีไว้เพื่อปรับปรุงคุณภาพน้ำให้ดีขึ้น ก่อนเข้าสู่ระบบประปาภายในบ้าน และยังเป็นการเตรียมความพร้อมของน้ำก่อนเข้าระบบกรองน้ำดื่มอีกด้วย ซึ่งระบบกรองน้ำใช้นี้ควรติดตั้งเป็นสิ่งที่สองรองลงมาจากมิเตอร์น้ำประปาเลยทีเดียว หลังจากนั้นน้ำใช้ที่ผ่านระบบการกรองแล้วจะถูกแจกจ่ายไปยังส่วนต่าง ๆ ในบ้าน รวมถึงจ่ายไปยังระบบกรองน้ำดื่มด้วย

ระบบน้ำดื่ม (Drinking Water Filter System)
  ระบบกรองน้ำดื่ม โดยพื้นฐานจะมีความคล้ายกับระบบกรองน้ำใช้ แต่เน้นในด้านคุณภาพน้ำและการกำจัดสิ่งปนเปื้อนออกจากน้ำก่อนนำไปบริโภค โดยเฉพาะเชื้อโรคต่าง ๆ ซึ่งเครื่องกรองน้ำดื่มนั้นสามารถติดตั้งแยกตามจุดใช้งานได้หลายจุด

ประเภทของเครื่องกรองน้ำ
ไม่ว่าจะเป็นระบบกรองน้ำใช้ หรือระบบกรองน้ำดื่ม ล้วนมีพื้นฐานมาจากหลักการเดียวกัน แต่ต่างกันตรงที่ลักษณะและปริมาณของการใช้งาน โดยในระบบกรองน้ำใช้ มักเป็นระบบ Micro Filter และ Ultra Filter ซึ่งเพียงพอแล้วต่อการใช้งานในการอุปโภคบริโภค แต่ในระบบกรองน้ำดื่มจะมีขั้นตอนที่กรองได้ละเอียดมากกว่า      โดยระบบกรองน้ำนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภท ดังนี้

1.เครื่องกรองน้ำใช้ MF (Micro Filtration System)
สามารถกรองน้ำและปรับคุณภาพน้ำให้เหมาะสมต่อการใช้งาน เพื่อนำเข้าสู่ระบบกรองน้ำดื่มต่อไป 0.3-0.01 ไมครอน ช่วยแก้ปัญหาน้ำกร่อย น้ำเค็ม และน้ำกระด้าง ก่อนเข้าสู่ ระบบประปาภายในบ้าน แรงดันประปามาตรฐาน ไม่ต้องใช้ไฟฟ้า นอกจากนี้ยังสามารถกรองสี กลิ่น และเชื้อโรคได้ แต่ยังไม่ใช่น้ำคุณภาพดีที่จะใช้ดื่มได้ อาจต้องกรองเพิ่ม หรือต้มอีกครั้ง ตัวเครื่องที่ทำจากไฟเบอร์ มีอายุการใช้งาน 10-15 ปี แต่ต้องอยู่ในร่ม หากติดตั้งนอกบ้านให้เลือกตัวเครื่องสเตนเลส มีอายุการใช้งาน 20-30 ปี ราคาเริ่มต้นที่ 5,000-30,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาด ส่วนไส้กรองราคาเริ่มที่ 1,000-3,000 บาทมีอายุ 1-3 ปี

2.เครื่องกรองน้ำดื่ม UF (Ultra Filtration System)
มีลำดับการกรอง และความละเอียดที่มากกว่าระบบ MF ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องกรองน้ำแบบ 3 ขั้นตอน จึงเป็นการกรองแบบปลอดเชื้อ สามารถกรองเชื้อจุลินทรีย์ ไวรัส แบคทีเรีย และโปรโตซัวได้ทุกชนิด อีกทั้งสารที่นำมาใช้การกรองแต่ละชั้น ยังสามารถกรองคลอรีน และโลหะหนักได้อีกด้วย 0.01 ไม่ต้องใช้ไฟฟ้า สามารถใช้งานในแรงดันน้ำประปามาตรฐานได้ ตัวเครื่อง 3,000 – 10,000 บาท มีอายุการใช้งาน 10-15 ปี ไส้กรอง 3,000-20,000 บาท มีอายุ 9-12 เดือน

3.เครื่องกรองน้ำดื่ม UV (Ultra Violet Filtration System)
  ระบบกรองที่จะเรียกว่าระบบกรองน้ำก็ไม่ถูกเสียทีเดียวเพราะเป็นการพาน้ำผ่านประจุแสงอัตราไวโอเลตเข้มข้นเพื่อฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ แต่ผู้ผลิตมักจะติดตั้งระบบกรองนี้ควบคู่มากับระบบกรองอื่น ๆ ด้วยซึ่งจะมีหรือไม่มีก็ได้ เป็นวิธีกรองที่รวดเร็วและสามารถใช้ร่วมกับการกรองระบบอื่นได้ แต่การอาบประจุแสง UV นั้นไม่ใช่การกรองผ่านชั้นกรอง จึงอาจมีเศษสิ่งสกปรกต่าง ๆ ตกค้างอยู่ในน้ำ จึงต้องการระบบกรองแบบอื่นมาช่วยปรับคุณภาพน้ำให้ดีขึ้น ชุดหลอดและอุปกรณ์ต่อท่อน้ำ 1,000 – 2,000 บาท หลอด UV 500 – 1,000 บาท มีอายุ 12-18 เดือน (ราคาเฉพาะชุดหลอดไม่รวมเครื่องกรองน้ำ)

4. เครื่องกรองน้ำดื่ม RO (Reverse Osmosis System)
เป็นระบบกรองที่ใช้แรงดันน้ำดันผ่านไส้กรองเมมเบรนความละเอียดสูง มักเป็นเครื่องกรองน้ำแบบ 5 ขั้นตอน ช่วยให้สามารถคัดกรองสิ่งสกปรกรวมถึงแบคทีเรีย และไวรัสได้อย่างหมดจด เรียกได้ว่าเป็นการกรองที่สะอาดที่สุดก็ว่าได้ ทำให้ได้น้ำที่สะอาดกว่าระบบอื่น ๆ เนื่องจากเป็นวิธีการกรองที่ละเอียดที่สุด ทำให้ชั้นกรองอาจจะเกิดการอุดตันได้ ทั้งยังต้องใช้แรงดันในการดันน้ำผ่านชั้นกรอง ต้องอาศัยปั๊มน้ำช่วยในการกรองจึงต้องติดตั้งไฟฟ้าด้วย ทำให้ตัวเครื่องมีราคาสูงกว่าระบบกรองชนิดอื่นๆ ราคาตั้งแต่ 5,000 – 30,000 บาท มีอายุการใช้งาน 10-15 ปี

เครื่องกรองน้ำนั้นจะมีระบบในการกรองอยู่มากมายหลายประเภท แต่ในส่วนที่สำคัญ เช่น ไส้กรอง นั้นมีบางส่วนที่ยังใช้ร่วมกันได้ แต่แตกต่างกันไปในลำดับและจำนวนขั้นตอนในกรรมวิธีการกรอง โดยแต่ละประเภทของไส้กรองนั้นต่างมีหน้าที่และอายุการใช้งานต่างกันไปดังนี้

ไส้กรองคาร์บอน เป็นการนำคาร์บอนมาอัดเป็นแท่งแล้วพันด้วยตาข่าย หรือใช้คาร์บอนเกล็ดอัดใส่กระบอก มีความสามารถในการดูดกลิ่น สี คลอรีน และสารเคมีต่าง มักอยู่ในระบบกรองน้ำแทบทุกระบบเลยทีเดียว อายุการใช้งานโดยประมาณ 3- 6 เดือน
ไส้กรอง PolyPropylene หรือเรียกสั้นๆทั่วไปว่า ไส้กรอง PP เป็นไส้กรอง หยาบ มักใช้ในการกรองขั้นแรกสุด สามารถดักฝุ่นผงและสารแขวนลอยต่างๆได้ดี มีความละเอียดตั้งแต่ 1 – 10 ไมครอน ทำให้ไส้กรองละเอียดหลังจากนี้ไม่อุดตันง่าย อายุการใช้งานโดยประมาณ 3- 6 เดือน

ไส้กรองเรซิ่น
  ทำหน้าที่ลดปริมาณหินปูน ช่วยให้น้ำไม่กระด้าง มีหลักการทำงานคือใช้การเปลี่ยนประจุทำหน้าที่ดูดซับ แคลเซี่ยม และแมกนีเซียม แลกเปลี่ยนเป็น โซเดี่ยมมาแทนที่ มีความจำเป็นอย่างมากสำหรับพื้นที่ที่ใช้น้ำบาดาล หรือเป็นน้ำกร่อย อายุการใช้งานโดยประมาณ 3- 6 เดือน
ไส้กรอง Reverse Osmosis ไส้กรองที่ละเอียดที่สุดในปัจจุบัน จึงสามารถกรองเชื้อไวรัสได้ สามารถกรองได้ถึง 0.0001 ไมครอน สามารถกรองน้ำที่มีรสชาติกร่อยหรือเค็มได้ แต่ด้วยความละเอียดที่มากเป็นพิเศษการกรองประเภทนี้จึงต้องใช้แรงดันและปั้มน้ำร่วมด้วย อายุการใช้งานโดยประมาณ 1 – 1.5 ปี
ไส้กรอง Post Carbon เป็นไส้กรองที่มีหน้าที่ในการปรับรสชาติ และค่า ph ของน้ำดื่ม ซึ่งไม่เกี่ยวกับความสะอาดของน้ำ ไส้กรองชนิดนี้จะมีอายุการใช้งานโดยประมาณ 1 ปี
เครื่องกรองน้ำในท้องตลาดที่เป็นแบบเต็มระบบคือมีขั้นตอนการกรอง 5 ขั้นตอนจะมีไส้กรองทั้ง 5 ชนิดดังกล่าว แต่นอกจากนั้นยังมีไส้กรองอื่นๆ ที่ติดตั้งมาเป็นตัวเลือกเพิ่มออฟชั่นในการกรองน้ำ เช่น
ไส้กรองเซรามิก ทำมาจากเซรามิกอัดเป็นแท่ง มีความละเอียดประมาณ 1 – 0.3 ไมครอน จึงกรองเชื้อแบคทีเรียได้ มีข้อดีคือนำมาทำความสะอาดและใช้ซ้ำได้ อายุการใช้งานโดยประมาณ 1 ปี

ไส้กรอง Nano Filtration
สามารถกรองได้ละเอียดถึง 001 ไมครอน แต่ไม่เป็นที่นิยมเพราะไม่มีระบบระบายน้ำทิ้งจึงเกิดการอุดตันได้ง่าย อายุการใช้งานโดยประมาณ 1 ปี

ไส้กรองน้ำแร่
เป็นไส้กรองที่ไม่เกี่ยวกับความสะอาดของน้ำเช่นกัน แต่มีหน้าที่เติมแร่ธาตุในน้ำให้กลายเป็นน้ำแร่ตามความเหมาะสม อายุการใช้งานโดยประมาณ 1 ปี

สิ่งสำคัญในการใช้ เครื่องกรองน้ำคือ ชุดไส้กรอง เพื่อให้น้ำดื่มสะอาด ปลอดภัยต่อสุขภาพคนในบ้านอย่างแท้จริง การทำความสะอาดด้วยการเปลี่ยนไส้กรอง คือสิ่งหนึ่งที่สำคัญ ซึ่งแต่ละชนิดก็มีอายุใช้งานต่างกัน จึงเป็นสิ่งที่ควรใส่ใจ

จะเห็นได้ว่า เนื้อหานี้จะช่วยให้คุณ ตัดสินใจเลือกใช้เครื่องกรองน้ำให้ตรงกับประเภทการใช้งานที่ต้องการ แต่ถ้าหากคุณกำลังมองหาผู้รับเหมาที่มีประสบการณ์ เชื่อถือและไว้วางใจได้ บิลด์แมน มีผู้รับเหมามืออาชีพ ที่พร้อมให้คำปรึกษา เกี่ยวกับการสร้างบ้านแบบครบวงจร ไว้วางใจให้บิลด์แมนดูแลสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมเป็นสมาชิกได้ที่ https://buildman.biz


ตลาดกลางรับเหมาก่อสร้าง ที่จบครบในที่เดียว “ผู้รับเหมา ผู้ออกแบบ วัสดุก่อสร้าง” พร้อมเป็นคนกลางช่วยบริหารสัญญาก่อสร้าง ฟรี!
อ่านบทความอื่นได้ที่    https://blog.buildman.biz
Posted in สาระความรู้เรื่องบ้าน and tagged , , , .

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *