ประเทศไทยขึ้นชื่อเรื่อง อากาศร้อน แสงแดดที่ร้อนแรง ระแนงกันแดด เป็นวิธีหนึ่งในการช่วยป้องกันเเสงเเละความร้อนไม่ให้เข้าสู่ตัวบ้าน และยังช่วยพรางสายตาได้เป็นอย่างดี โดยขึ้นอยู่กับการออกแบบติดตั้ง นอกจากนี้วัสดุที่เลือกมาใช้ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นเเละด้อยเเตกต่างกันไปก็สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นไม้ โลหะ ไวนิล ฯลฯ เพื่อให้เลือกใช้ ระแนงกันแดดได้อย่างเหมาะสมทั้งการใช้งานเเละงบประมาณในกระเป๋า เราจึงต้องลองมาทำความรู้จักกับวัสดุเหล่านั้นกันก่อน
1.ไม้จริง “ไม้” เป็นวัสดุอันดับแรกๆ ที่มักจะนึกถึงเมื่อคิดจะทำ ระแนงตกแต่งหรือบังแดด แน่นอนว่า ทั้งนี้เป็นเพราะความอบอุ่นจากสีของเนื้อไม้ และลายไม้ที่สวยงาม ไม้ที่นำมาทำระแนงกันแดดจึงควรเป็นไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้แดง เเละไม้เต็ง เพราะมีความแข็งแรง ทนต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้ดี ไม้ที่นิยมนำมาทำระแนงมีหลายขนาด อาทิ 1X2 นิ้ว , 2×2 นิ้ว ฯลฯ โดยก่อนนำมาใช้ควรทาน้ำยารักษาเนื้อไม้ รวมถึงน้ำยาป้องกันแมลงกินไม้ต่าง ๆ เสียก่อน เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานของระแนงไม้ให้ยาวนานยิ่งขึ้น (ราคาเฉลี่ยระแนงไม้จริงตารางเมตรละ 2,500 – 3,000 บาท ขึ้นไป)
2.ไม้เทียม เป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับผู้ที่ชื่นชอบการตกแต่งบ้านด้วยไม้ และช่วยลดการตัดไม้ทำลายป่า มาพร้อมคุณสมบัติแข็งแรงทนทาน ที่สำคัญปลวกมอดไม่กิน เพราะวัสดุที่ผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ทดแทนไม้จริง ปัจจุบันไม้เทียมที่นิยมใช้งานกันอยู่มี 2 ประเภท ได้แก่ ไฟเบอร์ซีเมนต์ (Fiber Cement) และ วู้ดพลาสติกคอมโพสิต (Wood Plastic Composite) หรือ WPC
2.1 ) ไฟเบอร์ซีเมนต์ มีความเหนียว ทนน้ำ ทนแดดได้ดี โดยความแข็งแรงของไม้ชนิดนี้จะขึ้นอยู่กับระยะโครงคร่าว และความหนาของหน้าตัดไม้ระแนง เนื่องจากผลิตจากปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ผสมกับซิลิก้าบริสุทธิ์ และเส้นใยเซลลูโลส ผู้ใช้สามารถขัดผิวและทาสีใหม่ได้ หากต้องการประหยัดเวลาก็มีรุ่นที่ทำสีสำเร็จมาเเล้วจากโรงงานให้เลือกใช้ (ราคาเฉลี่ยระแนงไฟเบอร์ซีเมนต์ตารางเมตรละ 1,000 – 1,500 บาท ขึ้นไป)
2.2) วู้ดพลาสติกคอมโพสิต หรือ WPC มีความแข็งแรงทนทาน ให้ผิวสัมผัสและให้ความรู้สึกเหมือนไม้จริง ทั้งนี้สีของ WPC เป็นสีที่อยู่ในเนื้อวัสดุ จึงไม่มีการลอกร่อนเหมือนสีทับหน้า แต่จะค่อย ๆ ซีดจางลงเมื่อโดนแดดเป็นประจำ ผลิตจากพอลิเมอร์ผสมกับผงไม้ และสารเติมแต่งที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของวัสดุ นอกจากนี้ WPC ยังมีหน้าตัดให้เลือกใช้หลากหลายขนาดใกล้เคียงกับไม้จริง ทั้งแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัส และสี่เหลี่ยมผืนผ้า (ราคาเฉลี่ยตารางเมตรละ 2,500 – 3,000 บาท ขึ้นไป)
3.ไวนิล (uPVC) ระแนงไวนิลที่ผลิตจาก uPVC (Unplastizide Polyvinyl Choride) มีคุณสมบัติทนต่อแสงแดดและสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้ดี ไม่บิดงอง่าย ไม่ลามไฟ และไม่ต้องทำสี ที่สำคัญมีน้ำหนักเบา จึงติดตั้งง่าย แต่ควรเลือกใช้สินค้าที่ได้มาตรฐาน เพราะจะได้มีอายุการใช้งานยาวนาน เนื้อวัสดุไม่กรอบแตกก่อนเวลาอันควร (ราคาเฉลี่ยตารางเมตรละ 2,000 บาท ขึ้นไป)
4. เหล็ก การเลือกใช้โลหะอย่างเหล็กมาทำเป็นระแนงกันเเดด เหมาะกับผู้ที่ต้องการความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ ทำสีได้หลากหลาย ตอบโจทย์ได้ดี เพราะหาซื้อและติดตั้งได้ง่าย เเถมยังกันขโมยได้ในตัว จึง แต่ทั้งนี้ควรระวังเรื่องการเกิดสนิม หลายคนจึงหันไปใช้อะลูมิเนียมที่มีน้ำหนักเบาและไม่เป็นสนิมแทน แต่ก็ต้องตามมาด้วยงบประมาณที่ค่อนข้างสูง (ราคาเฉลี่ยระแนงเหล็กตารางเมตรละ 1,000 – 1,500 บาท ขึ้นไป)
ข้อดีเเละข้อด้อยของวัสดุที่นำมาใช้ทำ ระแนงกันแดด เราจะเห็นได้ว่ามีความแตกต่างกันตามแต่คุณสมบัติ ดังนั้นก่อนตัดสินใจเลือกใช้จึงควรคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ให้ครอบคลุม และต้องเหมาะสมกับการใช้งานในเเต่ละสถานที่ เพื่อให้ระเเนงกันเเดดสามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่าที่สุด พอจะเข้าใจวิธีการเลือก วัสดุสำหรับเลือก ระแนงกันแดดกันแล้ว ส่วนเรื่องการสร้างบ้านให้บิลด์แมน (buildman ) ดูแล เป็นผู้ให้คำปรึกษา เราแนะนำผู้รับเหมามืออาชีพที่มีความชำนาญ เชื่อถือได้ ให้บริการดูแลเกี่ยวกับการสร้างบ้านครบวงจร ไว้ใจให้เราดูแล เข้าร่วมเป็นสมาชิกกับเราได้ที่ https://buildman.biz/ConfirmRegister
ตลาดกลางรับเหมาก่อสร้าง ที่จบครบในที่เดียว “ผู้รับเหมา ผู้ออกแบบ วัสดุก่อสร้าง” พร้อมเป็นคนกลางช่วยบริหารสัญญาก่อสร้าง ฟรี!
สามารถอ่านบทความอื่นได้ที่ https://blog.buildman.biz/