ผนังบ้าน หากก่อและฉาบปูนด้วยขั้นตอนที่ถูกต้องตามหลักการ ย่อมมีความแข็งแรงและไม่เกิดรอยแตกร้าวเพราะร่องรอยเหล่านี้เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ลดความสวยงามลงและอาจทำให้เกิดการทรุดตัวและพังทลายได้ ผนังบ้านที่แข็งแรงจะส่งผลต่อการแต่งเติมบ้านให้บ้านดูสวยงามขึ้นได้   การตกแต่งด้วยวิธีการทาสี ติดวอลเปเปอร์ หรือจะขัดมันให้ดูเท่ ก็สามารถเลือกได้ตามสไตล์ที่เจ้าของบ้านต้องการ   ขั้นตอนที่จะกล่าวดังต่อไปนี้คือการก่อผนังและฉาบปูนที่ถูกต้อง   1. ควรนำอิฐแช่น้ำก่อนก่อ 1 ชั่วโมง : พื้นฐานในการก่ออิฐ ลำดับแรกคือการทำให้อิฐอิ่มน้ำก่อนโดยการแช่น้ำหรือรดน้ำและตั้งไว้จนหมาดเพราะอิฐที่ผ่านการเผาจะมีความแห้งมาก ทั้งนี้ยังช่วยทำความสะอาดผิวอิฐเพื่อให้เชื่อมประสานกับปูนได้ดียิ่งขึ้น อิฐที่หมาดจะไม่ดูดน้ำจากปูนก่อมากนัก ทำให้ปูนก่อไม่ขาดน้ำและปูนไม่แห้งเร็วจนเกินไป ปูนที่ได้จะไม่แห้งร่วนและได้ผนังที่แข็งแรง   2. ก่ออิฐสลับแนว : เชื่อว่าข้อนี้คุณผู้อ่านน่าจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า วิธีการนี้ช่วยลดความร้อนจากภายนอกเข้าสู่ภายในบ้านได้เป็นอย่างดี นั่นก็คือการก่ออิฐนั้นควรก่อสลับแนว การก่อหนาสองแถวนั้นช่วยลดความร้อนจากภายนอกบ้านได้ดี กรณีก่ออิฐหนาสองแถวจะเหมาะกับผนังที่โดนแสงแดดมาก เพราะใช้ในการกันความร้อนได้ดี   3. ปูนก่อควรหนาไม่เกิน 1.5 เซนติเมตร : การก่อผนังทั้งอิฐมอญและอิฐบล็อค ชั้นปูนก่อที่หนาเกินไปส่งผลให้ เมื่อปูนก่อแห้ง จะเกิดการโน้มเอียงของตัวปูนตามมาด้วยการทรุดตัว อีกทั้งยังสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ ดังนั้นจึงก่อปูนแค่เพืยง 1.5เซนติเมตร ยกเว้นอิฐมวลเบา ในส่วนกรณีของอิฐมวลเบาจะใช้ปูนกาวโดยเฉพาะ ซึ่งจะก่อบางเพียง 2-3 มิลลิเมตร   4. ต้องมีเสาเอ็นและคานทับหลัง : […]

ทราบหรือไม่ว่า แบบบ้าน นั้นสำคัญอย่างไรกับ การก่อสร้างอาคารหรือ บ้านสักหลัง? ในขั้นตอนของการสร้างบ้าน หรืออาคาร ไม่ว่าจะเพื่ออยู่อาศัย หรือใช้ประโยชน์ต่าง ๆ นอกจากการหาช่าง หรือผู้รับเหมา การทำสัญญา การเลือกใช้วัสดุ การเลือกทำเล หรือที่ดิน สิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งก็คือ แบบบ้าน   เพื่อใช้สำหรับการขออนุญาตก่อสร้างกับทางอบต.หรือเทศบาล เราจำเป็นต้องมีแบบบ้าน เพื่อการดูแลงานก่อสร้างอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นชนิดของวัสดุ หรือขนาดพื้นที่ใช้สอยต่าง ๆ ซึ่งเป็นประโยชน์กับวิศวกรผู้ดูแลงานก่อสร้าง ผู้รับเหมา และเจ้าของบ้านเพื่อให้ทราบรายละเอียดอ้างอิงตามสัญญา ประเภทของแบบบ้านที่ควรรู้ แบ่งเป็น 2 ประเภทด้วยกัน 1. แบบก่อสร้างทางสถาปัตยกรรม (Architectural Drawing) เป็นแบบก่อสร้างที่ทำให้เห็นภาพรวมของพื้นที่ใช้สอย แปลนห้อง ลงรายละเอียดส่วนขยายหน้าต่าง ประตู บันได ผิวกระเบื้อง เพื่อใช้สำหรับประเมินราคาวัสดุตกแต่งของบ้าน 2. แบบก่อสร้างเชิงวิศวกรรม (Engineering Drawing) เป็นแบบที่แสดงรายละเอียดของโครงสร้างอาคาร ระบุขนาด มิติ ตำแหน่งของแต่ละส่วนในอาคาร ทางทีมวิศวกรจะออกแบบโดยใช้โปรแกรมคำนวณเฉพาะทาง และประเมินความแข็งแรงของอาคารตามที่กฎหมายด้านโยธาธิการกำหนด     […]

ในยุคเศรษฐกิจแบบนี้ หลายคนคงกำลังหาวิธีใน การสร้างบ้าน ให้ตามงบกับที่ตนมีอยู่ หรือหากเป็นไปได้ก็คิดหาวิธีในการประหยัดงบประมาณ ไม่ว่าจะเป็นลดการตกแต่งที่น้อยลง การหาวัสดุทดแทน หรือ แม้แต่ปรับเปลี่ยนรูปแบบบ้านจากที่ตนคิดไว้เลยก็มี ขอเสนอ 7 เทคนิค ที่จะช่วยประหยัดงบประมาณในการสร้างบ้านของคุณ เพื่อให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องงบที่บานปลาย และแบกรับกับค่าปรับแก้ในส่วนต่าง ๆ ที่มันบานปลายอีกต่อไปค่ะ   1. คำนึงถึงความเหมาะสมกับพื้นที่ การเลือกพื้นที่ในการสร้างบ้านให้แค่พอเหมาะกับจำนวนสมาชิกภายในบ้าน โดยพื้นที่ที่เหลือสามารถนำไปทำเป็นสวน ลานนั่งเล่น หรือเพื่อการเกษตรปลูกผักสวนครัวแล้วนั้น การสร้างบ้านตามพื้นที่ที่พอเหมาะกับคนในครอบครัว นอกจากจะประหยัดงบประมาแล้ว ยังช่วยในเรื่องของระบบถ่ายเทอากาศภายในบ้านได้ดีอีกด้วย 2.การออกแบบบ้าน หากคุณกำลังคิดที่จะสร้างบ้านในราคาประหยัดแล้วหละก็ คุณอาจจะต้องเลือกปรับเปลี่ยนวิธีในการสร้างและออกแบบบ้านใหม่ เช่น ในกรณีของการเดินสายไฟ คุณอาจเลือกวิธีปรับเปลี่ยนมาเป็นการเดินสายไฟลอย และใช้วิธีเก็บสายไฟให้เรียบร้อยแทน เพื่อเป็นการลดงบประมาณในเรื่องของการใช้แรงงานและความประณีตไปได้ส่วนหนึ่ง หรือถ้าแบบบ้านเป็นชั้นเดียวแต่ต้องการยกสูง ซึ่งต้องใช้งบประมาณในการถมดินค่อนข้างมาก เพื่อไม่ให้บ้านทรุด อาจลองปรับเปลี่ยนมาเป็นเล่นระดับของบ้านแทน ก็จะทำให้ตัวบ้านดูโปร่งขึ้น โดยไม่ต้องเสียสตางค์เยอะ 3 เลือกประเภทวัสดุที่เหมาะสม หากต้องการสร้างบ้านในราคาประหยัดแล้วนั้น การเลือกสเปควัสดุเท่าที่จำเป็น ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้คุณประหยัดงบประมาณไปได้ เช่น โซนซักล้างหลังบ้าน อาจเลือกใช้การเทปูนเปือยธรรมดา เป็นต้น 4. แสงและลมก็สำคัญ หลักการสร้างบ้านในราคาประหยัดอีกวิธีง่าย ๆ นั้น […]

ปัญหาพื้นระเบิด เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและการอยู่อาศัยในบ้าน ซึ่งอาจเกิดขึ้นด้วยหลายสาเหตุ มีอะไรที่ส่งผลให้ พื้นบ้านระเบิด และจะป้องกันหรือแก้ไขอย่างไรได้บ้าง   อะไรคือ กระเบื้องปูพื้นระเบิด? กระเบื้องระเบิดเป็นลักษณะของพื้นกระเบื้องที่มีการขยายตัวของโครงสร้างยึดเกาะจนทำให้แผ่นกระเบื้องดันกันโก่งถึงขีดสุดแล้วแตกหรือหลุดร่อนออกมา ซึ่งอาจเกิดขึ้นในบางบริเวณ   สาเหตุของปัญหากระเบื้องปูพื้นระเบิด   การปูกระเบื้อง สาเหตุเกิดจาก การผสมปูนที่ไม่เหมาะสม การไม่ใช้กาวซีเมนต์ช่วยยึดเกาะ รวมถึงการปูกระเบื้องแบบซาลาเปา ที่ช่างปูปูนผสมทรายป้ายเป็นจุดและไม่เกลี่ยให้ทั่วแผ่นกระเบื้อง ซึ่งทำให้เกิดช่องว่างและการยึดเกาะที่ไม่แน่นเพียงพอนำไปสู่การระเบิดได้ การปูกระเบื้องที่ไม่มีมาตรฐานหรือคุณภาพมากพอมีผลอย่างมากที่ทำให้เกิดความเสียหายจากการระเบิด   การปูพื้นโดยไม่เผื่อร่องยาแนว หากในขั้นตอนปูพื้นช่างวางตำแหน่งกระเบื้องชิดกันมากจนไม่เผื่อร่องไว้สำหรับยาแนวระหว่างแผ่นกระเบื้อง หรือมีการเว้นร่องยาแนวที่ไม่เหมาะสมกับชนิดของกระเบื้อง เมื่อมีการขยายตัวของวัสดุจะทำให้แผ่นกระเบื้องดันกันเองจนเกิดการระเบิดซึ่งมีต้นเหตุมาจากวัสดุปูพื้นมีการหดขยาย อุณหภูมิที่แตกต่าง ความร้อนทำให้เกิดการขยายตัวของวัสดุปูพื้น ความเย็นทำให้เกิดการหดตัว รวมถึงส่วนประกอบของวัสดุปูพื้นที่มีทั้งคอนกรีต กาวซีเมนต์ และกระเบื้องก็มีจุดยืดและหดตัวที่แตกต่างกัน ทำให้เมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนก็ส่งผลให้กระเบื้องแตกร้าวและระเบิดได้ อันเนื่องมาจากพื้นโครงสร้างของกระเบื้องจะมีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิอยู่ตลอดเวลาซึ่งส่งผลต่อการยืดขยายและหดตัวของวัสดุปูพื้น มีน้ำใต้ดินหรือน้ำซึมตามแผ่นกระเบื้อง ทำให้เกิดความชื้น เมื่อพื้นที่นั้นโดนความร้อนมากๆ จนอุณหภูมิสูงขึ้นจะทำให้เกิดไอน้ำใต้กระเบื้องและและมีแรงดันจนทำให้กระเบื้องระเบิด พื้นที่ที่ปูกระเบื้องไม่เสมอหรือไม่สะอาด หากพื้นที่ที่ใช้ปูกระเบื้องไม่มีความเสมอกัน หรือไม่ผ่านการปรับระดับพื้น หรือไม่ได้มีการทำความสะอาดพวกฝุ่น เศษหิน เศษดินต่างๆ และไม่มีการเคลียร์พื้นที่ก่อนทำการปู จะส่งผลต่อประสิทธิภาพของการยึดเกาะ ทำให้เกิดช่องว่าง มีลมหรืออากาศไหลผ่านจะทำให้เกิดการระเบิดขึ้นได้   ปัญหากระเบื้องระเบิดป้องกันได้หากเริ่มต้นด้วยความพิถีพิถัน ใส่ใจทุกขั้นตอนและมีทีมช่างที่มีความเชี่ยวชาญ ไม่ว่าจะเป็น บ้าน หรู […]

การสร้างบ้าน การก่อผนังด้วยอิฐมอญ ไม่ได้เป็นนวัตกรรมใหม่ แต่เป็นความรู้แบบภูมิปัญญาที่ได้สืบทอดกันมาเนิ่นนาน ถ้าจะกล่าวถึงนวัตกรรมบ้านเย็น ตัวช่วยมีมากมาย เช่น เพิ่มฉนวนกันความร้อนใต้หลังคา นวัตกรรมระบายอากาศ หรือแม้กระทั่งสีทาบ้านที่มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อน แต่กับการก่อผนังด้วยอิฐมอญ เป็นความรู้เชิงภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน โดยปกติการก่ออิฐมอญทั่วไปจะทำการก่อเพียงชั้นเดียว ผนังก็จะได้รับความร้อนจากแสงอาทิตย์โดยตรง จึงมีเทคนิค การก่อผนังอิฐมอญ 2 ชั้น ที่สามารถกันความร้อนเข้าสู่ผนังได้ดี วิธีการก่อผนังอิฐมอญ 2 ชั้น ให้ช่างก่อผนังชั้นแรกตามขอบนอกของเสาบ้าน หรือก่อให้ชิดขอบเสาด้านใน โดยเฉพาะผนังด้านที่ได้รับแสงแดดร้อนอย่างทิศตะวันตกและทิศใต้ เว้นระยะห่างประมาณ 5 เซนติเมตร เพื่อให้เกิดช่องว่างระหว่างอิฐ ซึ่งช่องว่างระหว่างชั้นอิฐนี่เองเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยป้องกันไม่ให้ความร้อนจากผนังชั้นนอกเข้าสู่ผนังชั้นใน และควรออกแบบผนังให้มีช่องระบายอากาศ เพื่อให้อากาศร้อนที่สะสมระหว่างช่องว่าง ได้เกิดการถ่ายเท เปลี่ยนใหม่ จะช่วยป้องกันความร้อนได้เต็มประสิทธิภาพ ข้อดีของการก่อผนังอิฐมอญ 2 ชั้น ป้องกันความร้อน : การก่อผนังอิฐมอญ 2 ชั้น จะช่วยให้แสงแดดที่ส่องลงไปที่ผนังชั้นนอกรับความร้อน ส่วนผนังชั้นในจะไม่ได้รับความร้อนโดยตรง จึงสามารถป้องกันความร้อนจากแสงแดดได้ดี ช่วยลดอุณหภูมิได้ประมาณ 5 องศา เป็นเสมือนเกราะป้องกันบ้านจากแสงแดดที่แผดเผาตลอดทั้งวัน ป้องกันเสียง : นอกจากช่วยลดอุณหภูมิแล้ว การก่อผนังสองชั้นจะช่วยป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก จึงเหมาะอย่างยิ่งกับบ้านที่อยู่ในพื้นที่ชุมชน […]

การ ทาสีบ้าน ให้กับบ้านของคุณ ไม่ว่าบ้านของคุณจะเป็น บ้าน หรู โม เดิ ร์ น หรือ บ้าน สร้าง เอง การทาสีใหม่ให้กับบ้าน เปรียบเสมือนการฟื้นฟูซ่อมแซ่มผิวตัวบ้าน จากสีบ้านซีดที่จางลงไป จากการตากแดดตากฝนมานาน ซึ่งคุณสามารถทาสีบ้านด้วยตนเอง หรือเรียกใช้บริการจากช่างที่มีความชำนาญก็ได้เช่นกัน แต่ไม่ว่าจะเลือกทาสีบ้านด้วยตนเอง หรือว่าจ้างช่างทาสี สิ่งหนึ่งที่ต้องรู้คือการ คำนวณสีทาบ้าน ให้รู้ปริมาณสีที่ต้องซื้ออย่างแน่ชัด และเพื่อไม่ให้เป็นการสิ้นเปลืองสีโดยใช่เหตุ รู้จักปริมาณสีที่มีจำหน่ายในท้องตลาด ไม่ว่าจะซื้อสีผสมสำเร็จรูปในถังแกลอน หรือเลือกสีผสมจากเครื่องผสมสีที่มีจำหน่ายในศูนย์ผสมสีนั้น ต่างต้องมีขนาดบรรจุปริมาณของสีไว้ โดยหน่วยที่ใช้วัดคือ แกลอน (1 แกลอน = 3.785 ลิตร) แบ่งออกเป็น 4 ขนาดด้วยกันคือ 1 /4 แกลอน = 0.946 ลิตร 1 แกลอน = 3.785 ลิตร 2.5 แกลอน = 9.46 […]

หากห้องที่คุณอยู่มีพื้นที่น้อย ทำให้รู้สึกคับแคบ จนมีความคิดที่อยากจะตกแต่งรีโนเวทห้อง อยากจะตกแต่งห้องเล็กๆ ให้ดูกว้างขึ้น แต่ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร จะจัดตกแต่งแบบไหน วันนี้เรามีเคล็ดวิธีที่จะช่วยคุณ ให้สามารถเปลี่ยนห้องเล็กๆของคุณให้ดูโฟลว์ โล่ง โปร่ง ซึ่งวิธีที่ช่วยได้ สามารถทำได้ง่ายและประหยัดงบ นั่นคือ การนำสีมาช่วยหลอกสายตา ให้ห้องดูโปร่งกว้างขึ้น แต่จำเป็นต้องมีเทคนิคในการทากันเล็กน้อย ดังนี้ 1.ห้องกว้างด้วยโทนสีอ่อน โดยรวมแล้วโทนสีอ่อนหรือโทนสีสว่าง จึงเหมาะกับการทาในห้องแคบ ๆ มากกว่าสีมืดเข้มครับ เพราะสีแต่ละโทนจะให้ความรู้สึกแตกต่างกัน โทนสีเข้มให้ความรู้สึกถึงความหนักแน่น มืดทึบ เมื่อใช้ทาสีห้องจะทำให้รู้สึกห้องดูแคบและอึดอัด ส่วนโทนสีอ่อนโดยเฉพาะสีโทนเย็นแบบพาสเทล ช่วยให้รู้สึกได้ถึงความโปร่ง เบา สดชื่น และสบายตา เช่น สีฟ้าอ่อน, สีเขียวอ่อน สีครีม หรือสีขาว เป็นสีที่สะท้อนแสงสว่างได้ดี ทำให้ห้องดูกว้างกว่าสีเข้มและเติมบรรยากาศในบ้านให้สดใสมากขึ้น 2.โทนสีเข้มช่วยเพิ่มมิติ แม้จะบอกว่า โทนสีอ่อนไปโทนสีที่ช่วยทำให้ห้องของเรานั่นดูโล่งขึ้น แต่ใช่ว่าโทนสีเข้มจะไม่มีข้อดี ในการทาสีห้อง เราสามารถใช้โทนสีเข้มที่มีน้ำหนัก เน้นทาบางส่วนในห้องเพื่อเพิ่มน้ำหนักและมิติให้กับห้อง ให้มีความตื้นลึก ดูโปร่งลึกยิ่งกว่าทาสีอ่อนเพียงอย่างเดียว 3. พื้นผิวช่วยดึงดูดสายตา นอกจากการทาสีอ่อนให้ห้องดูโล่งกว้าง ทาสีเข้มเพื่อเพิ่มมิติให้มีความตื้นลึกแล้ว การจะทำให้ห้องของเราดึงดูดสายตา เพื่อให้ตาของเราโฟกัสไปกับสิ่งที่น่าสนใจ สามารถแต่งผนังด้านใดด้านหนึ่งให้มี […]

“ห้องพระ” มีคนจำนวนไม่น้อยที่คิดว่าห้องพระนั้นเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นพื้นที่สำคัญ เปรียบเสมือนที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจสำหรับคนในบ้าน ในกรณีที่บ้านนั้นเป็นบ้าน แบบ บ้าน หรูหรา หรือแม้แต่ในบ้านที่มีพื้นที่กว้างขวาง แบบ บ้าน คฤหาสน์ ก็ยังต้องมีห้องพระ ให้มีชั้นประดิษฐานเป็นพิเศษสำหรับการสักการบูชา เพื่อให้เป็นพื้นที่ที่ทุกคนในครอบครัวจะใช้เป็นมุมเจริญสติภาวนาและพักผ่อนได้ในทุกวัน ตำแหน่งของห้อง ทิศตะวันออกหรือทิศเหนือ คือ ตำแหน่งที่เหมาะสมในการจัดวาง ควรเปิดรับลมและแสงแดดที่ไม่ร้อนจนเกินไป อีกทั้งอากาศยังถ่ายเทได้สะดวก ไม่ควรวางตำแหน่งห้องพระไว้ใกล้กับห้องน้ำ นอกจากเรื่องของความเหมาะสมแล้ว เหตุผลสำคัญก็คือห้องน้ำนั้นมีความชื้นสูง การจัดให้มุมเคารพบูชานี้อยู่ห่างออกไปจะช่วยให้เฟอร์นิเจอร์และพระพุทธรูปที่เป็นโลหะไม่ชื้นหรือเกิดความเสียหายได้ การระบายอากาศที่ดี ควรออกแบบให้มีช่องเปิดสำหรับระบายอากาศ เพื่อไม่ให้ทั้งห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นและควันเพราะมักมีการจุดธูปและเทียนเพื่อการไหว้พระในห้องพระอยู่เสมอ จะทำให้สามารถใช้เวลาอยู่ในห้องนี้ได้นานขึ้น ศิลปะจัดวาง ลองหามุมที่เหมาะสมในบ้านเพื่อทำการจัดวาง องค์พระพุทธรูป แล้วเลือกสตูลทรงสูงเป็นที่ประดิษฐานองค์พระ จะสามารถเสริมให้การตกแต่งบ้านดูงดงามมากยิ่งขึ้นอีกด้วย พื้นที่ที่ใหญ่พอ อาจออกแบบเป็นโต๊ะหมู่บูชาขนาดใหญ่เพื่อการประดิษฐานได้อย่างเพียงพอ หากที่บ้านมีพื้นที่กว้างขวางพอ ประกอบกับมีพระพุทธรูปและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นับถือเป็นจำนวนมาก หรืออาจจัดเป็นมุมอ่านหนังสือธรรมะ ซึ่งทั้งสองการใช้งานนี้ต่างก็ต้องการบรรยากาศที่เงียบสงบเช่นเดียวกัน พื้นที่จำกัด ไอเดียนี้เหมาะมากกับบ้าน หรู สไตล์ โม เดิ ร์ น หากมีพื้นที่ไม่มากนักก็อาจปรับผนังด้านใดด้านหนึ่งของบ้านเป็นมุมประดิษฐานหิ้งบูชาแบบกะทัดรัด เพื่อให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย อาจทำลิ้นชักสำหรับเก็บอุปกรณ์บูชาพระ และติดตั้งไฟดาวน์ไลท์เฉพาะจุดส่องสว่างเหนือองค์พระประธาน เพื่อให้บรรยากาศดูเรืองรองน่าเลื่อมใส รวมถึงเป็นงานตกแต่งที่สวยงามอีกด้วย ผนังแฮนด์เมด […]

ถ้าคิดถึง ผนังบ้านหรืออาคารในปัจจุบันนั้น นอกจากจะใช้ประโยชน์ในการแบ่งพื้นที่ใช้สอยแล้ว ยังมีประโยชน์ในด้านความสวยงามเป็นสัดส่วน และป้องกันการบุกรุกจากโจรผู้ร้าย และผนังบ้าน อาคารสมัยนี้มีให้เลือกมากมาย ในครั้งนี้ อยากจะขอนำเสนอ เรื่องของ ผนัง  โดยอิงที่มาจาก ผนัง ของอาคารสำนักบริหารบิลด์แมน ที่มีการออกแบบตั้งแต่การเริ่มสร้าง จนถึงตกแต่ง ได้สวยงาม เป็นสัดส่วน  และใช้พื้นที่ใช้สอยได้อย่างคุ้มค่า ซึ่งอาจจะเป็นไอเดียกับหลายท่านที่กำลังจะรีโนเวทบ้าน หรือสร้างบ้านใหม่ ได้นำไปใช้ได้