คนไหนไม่เปลี่ยนรูปแบบธุรกิจเป็นออนไลน์ จะไม่สามารถรอดได้ จริงหรือ?

“ทุกคนต้องปรับตัว” หรือ “ใครไม่เปลี่ยนคุณจะหลุดไปจากวงการ” หรือ “ตอนนี้ทุกคนต้องขายผ่านออนไลน์เท่านั้น ไม่งั้นไม่รอด” คำพูดเหล่านี้จริงหรือ เดี๋ยวบิลด์แมนจะคุยให้ฟัง

ตั้งแต่อดีต พ่อแม่มักบอกกับลูกว่า ต้องเรียนหนังสือให้เก่ง เรียนให้สูง จะได้เป็นเจ้าคนนายคน คำพูดเหล่านี้ในช่วงเจนเนอเรชั่น เอ็กซ์ (คนที่เกิดระหว่าง พ.ศ.2508-2522) จนถึงช่วงต้นของเจนเนอเรชั่น วาย (คนที่เกิดระหว่างพ.ศ.2523-2540) คงคุ้นเคยกับคำแนะนำที่พ่อแม่พูดกรอกหูกันบ่อยๆ อย่างไรก็ดี เรื่องนี้ไม่ใช่ถูกซะหมดและก็ไม่ได้ผิดซะทีเดียว ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น

ในยุคนั้น ความหลากหลายทางอาชีพยังไม่มี ค่านิยมส่วนใหญ่อยู่ในสายอาชีพข้าราชการ ที่มีทั้งความมั่นคง และสวัสดิการที่ดี ทั้งในแง่การรักษาพยาบาล และการมีบทบาทในสังคมขณะนั้น คนเป็นครู เป็นพยาบาล จะเป็นที่นับถือในชุมชน ยิ่งถ้าเป็นอาชีพทางสายปกครอง เช่น ปลัดอำเภอ ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ เพราะยังมีคนที่เป็นกันไม่มากในสังคมขณะนั้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนที่เรียบจบ ปวส., ปริญญาตรี, หรือสูงกว่านั้นมาแล้ว จะมีงานทำ หรือมีงานทำแล้วจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานได้ทุกคน

ในทางตรงกันข้าม บางคนอาจพูดว่า คนเรียนไม่สูงก็ประสบความสำเร็จได้ ตัวอย่างเช่น คุณเจริญ สิริวัฒนภักดี ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เจ้าของเบียร์ช้างที่เป็นที่รู้จักกันดี เป็นต้น ที่เลิกเรียนหนังสือ แล้วไปรับจ้างเข็นรถสินค้าและขายของตามริมทางเท้าตั้งแต่อายุ 11 ขวบ เมื่อประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจแล้วจึงค่อยกลับมาเรียนเพิ่มเติมในภายหลัง แต่บิลด์แมนอยากให้ลองคิดดูว่า มีคนที่สามารถทำแบบท่านเจ้าสัวเจริญได้สักกี่คน

เรื่องแบบนี้ ต้องบอกว่าอยู่ที่ความตั้งใจเป็นหลัก ไม่ว่าคุณจะอยู่ตรงไหนของอาชีพหรืออยู่ระดับไหนของธุรกิจ ขอให้ตั้งใจทำให้ดี  ในมุมของการทำธุรกิจสิ่งทีสำคัญที่สุดเป็นอันดับแรกคือ คุณภาพของงานของคุณนั้น ดีพอแล้วหรือยัง ถ้างานของคุณเป็นงานที่มีคุณภาพดี หมายความว่าคุณมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จไปแล้ว 50% ส่วนที่เหลือคืออะไร บิลด์แมนจะแนะนำให้ดังนี้

อีก 10% คือการมีทัศนคติที่พร้อมจะพัฒนา ไม่ยึดติดอยู่กับความสำเร็จที่เคยมีมา คุณสมบัติข้อนี้ จะช่วยให้คุณสามารถเปิดกว้างที่จะคิด ค้นหา และเรียนรู้ที่จะปรับตัวที่นำเอาเทคโนโลยีใหม่ หรือการทำอย่างใดอย่างหนึ่งที่ดีกว่า เพื่อเข้ามาปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้

อีก 10% คือการทำการตลาด เปรียบเทียบให้เห็นภาพ หากคุณเป็นผู้รับเหมาทำวัดที่เก่งที่สุด แต่คุณมัวแต่ไปประชาสัมพันธ์และรอลูกค้าใช้บริการอยู่แต่ในพื้นที่ที่มีสุเหร่ามากจนหาวัดแทบไม่เจอ โอกาสที่คุณจะประสบความสำเร็จก็น้อย

อีก 10% คือการบริหารต้นทุน เพื่อให้มีความชัดเจนและเหมาะสมกับระดับธุรกิจและส่วนแบ่งการตลาดของคุณ แน่นอนว่าการใช้ของดีที่สุด อาจทำให้คุณได้งานออกมาดีที่สุด แต่หากในวันนี้ลูกค้าของคุณยังเป็นกลุ่มระดับที่ให้ความสำคัญกับเรื่องราคามากกว่าเรื่องความหรูหราน่ามอง การปรับใช้งานวัสดุหรือการจัดการที่เหมาะสม จะเป็นสิ่งที่ดีกว่าสำหรับสถานะแบบนี้ เช่น ถ้าคุณเป็นผู้รับเหมาสร้างบ้านขนาดเล็ก การปิดกั้นพื้นที่ก่อสร้างด้วยผ้าสแลนสีเขียวที่ขึงตึง มีการกองเก็บวัสดุอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย กำชับให้ลูกน้องเก็บกวาดพื้นที่หลังการทำงานเสร็จในแต่ละวัน แล้วสามารถเสนองานให้ลูกค้าในราคาที่ย่อมเยากว่า ย่อมดีกว่าไปใช้รั้วเหล็กเมทัลชีทสวยงามพร้อมจ้างเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดโดยเฉพาะตลอดวันแต่เสนอราคาที่แพงลิบลิ่ว ซึ่งไม่ตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของคุณ การวางแผนการจัดการที่ไม่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ก็ทำให้คุณล้มเหลวได้

อีก 10% คือความรับผิดชอบที่เต็มร้อยกับความรอบคอบอีกร้อยห้าสิบ เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เฉพาะในธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง แต่ไม่ว่าคุณจะอยู่ในธุรกิจใดก็ตามแต่ ความรับผิดชอบคือเครื่องมือการตลาดอย่างดี ที่จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง เพราะคำว่า “รับผิดชอบ” ยังหมายรวมถึงการที่คุณต้องศึกษาและวางแผนให้ “รอบคอบ” เพื่อป้องกันโอกาสที่จะเกิดปัญหาหรือความเข้าใจไม่ตรงกันกับความคาดหวังของลูกค้าอีกด้วย เพราะหลายครั้งปัญหามักจะเกิดจากการที่ผู้รับเหมารู้ผลล่วงหน้าแต่ยังฝืนทำและไม่แจ้งทำความเข้าใจให้ลูกค้าทราบก่อน ว่าจะมีผลกระทบอย่างไร

เช่น การต่อเติมพื้นที่ใช้สอยหลังบ้าน อาทิ ทำครัวเพิ่ม โดยใช้เสาเข็มสั้นไม่เกิน 6 เมตร ในขณะที่ตัวอาคารเดิมมักวางอยู่บนเสาเข็มยาวจนถึงชั้นทราย (ในกรุงเทพจะอยู่ที่ความยาวประมาณ 18-22 เมตร) ซึ่งจะมีโอกาสทรุดตัวน้อยกว่าส่วนที่ต่อเติมใหม่  แต่ผู้รับเหมาบางรายกลับเลือกที่จะปกปิดเพียงเพราะต้องการให้เจ้าของบ้านคิดว่าราคาของตนนั้นถูกกว่าผู้รับเหมารายอื่นที่เสนอราคามาโดยเป็นเสาเข็มเจาะที่ความลึกลงไปเท่ากับหรือใกล้เคียงกับเสาเข็มเดิม ทำให้ผู้รับเหมาอื่นอาจเสนอราคาที่แพงกว่าและลูกค้าไม่เข้าใจถึงความแตกต่างและผลกระทบ ซึ่งแน่นอนว่าส่วนต่อเติมที่ทำมานั้น ย่อมต้องทรุดและแยกตัวจากผนังเดิมที่มีอยู่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้หากใช้เสาเข็มและฐานรากที่ไม่เหมาะสมแบบนั้น เป็นต้น

อีก 10% สุดท้าย คือความเข้มแข็งและมีกำลังใจ การทำงานทุกอย่างย่อมต้องมีอุปสรรคเป็นธรรมดา การที่จะก้าวผ่านปัญหา ความล้มเหลว หรือพัฒนาตัวเองไปสูงจุดที่ดีกว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องงาน

การมองเห็นว่าการที่ยังไม่สำเร็จเป็นเรื่องธรรมดาที่ยังคงต้องเพียงมุ่งมั่นทำต่อไปและก็ต่อไป จนกว่าจะสำเร็จ การฝึกฝนให้เป็นคนที่มีจิตใจเข้มแข็ง ไม่ยอมแพ้ เช่นนี้ เป็นคุณสมบัติสำคัญที่ช่วยได้และจำเป็นสำหรับการอยู่รอดของทุกคนมากกว่าเทคโนโลยีหรือแพลตฟอร์มธุรกิจใหม่ๆเสียอีก

หากคุณสามารถบริหารเรื่องทั้ง 6 ข้อข้างต้นได้ดี คือ คุณภาพ, การเปิดใจที่จะเปิดรับการพัฒนา, การทำการตลาดที่เหมาะสม, การควบคุมต้นทุน, ความรับผิดชอบที่มาพร้อมกับความรอบคอบในการทำงาน, และฝึกฝนให้ตนเป็นคนเข้มแข็ง เพียงแค่นี้ คุณก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแพลตฟอร์มการทำงานอย่างรีบด่วนมากนัก เพราะสุดท้ายอุปสงค์ (ความต้องการซื้อ) ของลูกค้าก็ยังยินดีที่จะเลือกใช้ผู้ให้บริการที่มีคุณภาพดีและเหมาะสมกับเขาอยู่แล้ววันยังค่ำ

การที่มีคุณสมบัติเปิดใจรับการพัฒนา ก็จะทำให้คุณเริ่มมองหาเครื่องมือการบริหารหรือการจัดการใหม่ๆที่มีต้นทุนที่ถูกลง ดังนั้น การเปิดรับช่องทางการตลาดแบบออนไลน์ที่เริ่มเป็นที่นิยมสำหรับยุคสมัยนี้ ก็จะไม่กลายเป็นสิ่งที่น่ากลัวแต่กลับจะเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับคุณอย่างแน่นอน

บิลด์แมน เว็บและแอพพลิเคชั่นตลาดกลางแบบออนไลน์ ที่เปิดโอกาสให้ผู้มีความประสงค์สร้างบ้านหรือว่าจ้างงานรับเหมาก่อสร้างทุกชนิด เข้ามาเห็นหรือสามารถค้นหาผู้รับเหมาก่อสร้างและร้านค้าวัสดุก่อสร้างที่เหมาะสม เป็นอีกช่องทางการตลาดที่ดีเยี่ยมสำหรับทุกคน ทั้งผู้ว่าจ้างและผู้ให้บริการ รับเหมาก่อสร้าง และร้าน วัสดุก่อสร้างทั่วประเทศ

ผู้ให้บริการ รับเหมาก่อสร้าง และร้านค้า วัสดุก่อสร้าง เชิญลงทะเบียนเพื่อสมัครเป็นสมาชิกฟรีได้แล้ววันนี้ ที่ www.buildman.biz

 

อ้างอิง

https://money.kapook.com/view177181.html

https://moneyhub.in.th/article/generation-people/

Posted in Uncategorized.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *