ปรับกลยุทธ์ให้บริษัทหรือทีมงานของเรา เท่าทันกระแสโลก

จากคุณสมบัติ 6 ข้อที่พูดถึงไปในบทความที่แล้วคือ คุณภาพ, การเปิดใจที่จะเปิดรับการพัฒนา, การทำการตลาดที่เหมาะสม, การควบคุมต้นทุน, ความรับผิดชอบที่มาพร้อมกับความรอบคอบในการทำงาน, และฝึกฝนให้ตนเป็นคนที่เข้มแข็ง นับเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการอยู่รอดในการทำธุรกิจในยุคโควิดนี้ ไม่ว่าจะตอนนี้หรือหลังจากที่โรคระบาดหายไป ทุกคนจำเป็นต้องตั้งสติ แล้วรีบหันมามองตัวเองว่า เราอยู่ในจุดไหนในการแข่งขันในตลาดของเรา เรื่องสำคัญที่สุดคือเรื่องคุณภาพ อะไรเรียกว่ามีคุณภาพดีพอ เราดีพอแล้วจริงหรือไม่ บริษัทหรือทีมงานเล็กๆ จะสามารถแข่งขันได้จริงหรือ วันนี้บิลด์แมนจะมาคุยแนวคิด ของบริษัทชั้นนำระดับโลกให้ฟัง ว่าเขาบริหารธุรกิจของเขาอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ

 

ทั้งในเรื่องของชีวิตหรือเรื่องของธุรกิจ ย่อมหนีไม่พ้นต้องมีการเปรียบเทียบ คนทำงานกินเงินเดือนนั้น หัวหน้าก็ต้องเปรียบเทียบการขึ้นเงินเดือนหรือตำแหน่ง โดยเทียบระหว่างเพื่อนในตำแหน่งเดียวกัน คนที่เป็นเจ้าของธุรกิจก็ต้องถูกลูกค้าเปรียบเทียบระหว่างทีมงานหรือระหว่างบริษัทที่ให้บริการในลักษณะเดียวกัน ยิ่งถ้ายังเป็นบริษัทเล็กๆ หรือทีมงานเล็กๆ อะไรจะช่วยทำให้มีความน่าเชื่อถือและแข่งขันในตลาดได้

 

ลองมองวิธีคิดของบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก เช่น อาลีบาบา ที่เคยเข้ามาแสดงผลงานในเมืองไทยในปี 2561 อาลีบาลีบาบาสามารถปล่อยขายทุเรียนของเกษตรกรไทยได้ถึง 80,000 ลูก โดยใช้เวลาเพียง 1 นาที อ่านไม่ผิดนะ เพียงแค่ 1 นาทีจริงๆ หากพูดถึงเฉพาะขีดความสามารถของบริษัทนี้ เขาทำอย่างไรให้สามารถกลายเป็นบริษัทที่มีศักยภาพระดับโลกได้ภายในเวลาไม่กี่ปี

 

อาลีบาบา ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2547 ซึ่งในขณะนั้นมีเจ้าตลาดด้านนี้ของโลกอยู่แล้วคือ บริษัทอีเบย์ (ebay) ซึ่งมีมูลค่าของบริษัทมากกว่า 60,000 ล้านบาทในขณะนั้น เมื่อเปรียบเทียบกับอาลีบาบาที่เป็นบริษัทเพิ่งเปิดใหม่ ย่อมไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้เลย แต่ด้วยวิสัยทัศน์ของแจ็คหม่าซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทอาลีบาบา เขาสามารถทำให้บริษัทที่เพิ่งเปิดมาไม่กี่ปี สามารถตีตื้นจนเจ้าตลาดโลกอย่างอีเบย์ต้องยอมแพ้และยอมถอยออกไปจากประเทศจีนด้วยระยะเวลาเพียง 5 ปีเท่านั้น

 

Mr. Duncan Clark หรือเรียกสั้นๆว่า มิสเตอร์คลาร์ค ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของบริษัทอาลีบาบา ได้สรุปเนื้อหาสำคัญที่ทำให้แจ็คหม่าประสบความสำเร็จ โดยเล่าว่าคุณสมบัติที่สำคัญนั้นมีเพียง 3 ข้อ เปรียบเสมือนด้าน 3 ด้านของสามเหลี่ยมเหล็กที่ต่อเชื่อมกันอย่างแน่นหนา หลักการ 3 ข้อที่ควรศึกษาและนำไปปรับใช้ภายในองค์กร มีดังนี้คือ

 

1) ความหลากหลายของสินค้าและบริการ เรียกได้ว่า ลูกค้าที่เข้ามาหาซื้อสินค้าในอาลีบาบา จะได้รับความสะดวกกว่าเพราะมีสินค้าและบริการให้เลือกครบ หากนำมาปรับใช้กับธุรกิจก็คือ ควรเสนอบริการให้กับลูกค้าได้อย่างครบถ้วนในงานของตน เช่น หากเป็นบริษัทหรือทีมงานที่ให้บริการ รับเหมาก่อสร้าง ก็ควรมีบริการที่ครบถ้วนจนสามารถสร้างบ้านได้ทั้งหลัง และยังต้องรวมการให้บริการด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเช่น การยื่นขอใบอนุญาตก่อสร้าง การขอน้ำขอไฟ เป็นต้น

 

แต่หากมองเป็นสเกลที่เล็กลงมาและไม่อยากขยายให้ใหญ่จนเกินไป เช่น เป็นช่างปูกระเบื้อง อย่างน้อยก็ควรขยายขอบเขตให้สามารถครอบคลุมงานปูกระเบื้องแผ่นใหญ่ ซึ่งปัจจุบันกำลังเป็นที่นิยมในบ้านหรูราคาแพง นอกจากนั้น ยังควรสามารถให้บริการได้ทั้งการปูหินแกรนิต ติดหินอ่อน และกรุหินเทียม ได้อีกด้วยเป็นต้น ซึ่งการให้บริการที่ครอบคลุมมากขึ้น จะสร้างความสะดวกให้กับลูกค้า จนไม่อยากเปลี่ยนไปใช้ผู้ให้บริการรายอื่นนั่นเอง

 

2) การให้บริการในราคาที่ต่ำกว่าแต่สามารถส่งมอบสินค้าหรือบริการได้รวดเร็วกว่า หากนำมาปรับใช้กับธุรกิจก็คือ ควรหาทางปรับต้นทุนให้ลดลง แต่ให้ได้คุณภาพที่เพิ่มขึ้นหรืออย่างน้อยให้ได้คุณภาพเท่าเดิม เพื่อให้สามารถทำราคาแข่งขันกับคู่แข่งได้

 

การบริหารต้นทุนและการควบคุมคุณภาพ รวมถึงความรวดเร็วในการส่งมอบงาน เป็นเรื่องที่สามารถทำร่วมกันได้ ทุกคนสามารถควบคุมต้นทุนไม่ให้บานปลาย แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถโฟกัสและเน้นใช้เวลาไปกับเฉพาะส่วนงานที่สำคัญของตนได้

 

การตัดส่วนงานบางส่วนที่สำคัญน้อยออก เพื่อให้ผู้อื่นมารับงานต่อ และเก็บงานเฉพาะส่วนที่เป็นหัวใจสำคัญไว้ให้ทีมงานของตนเองทำ คืออีกหนึ่งเคล็ดลับของความสำเร็จ ดังตัวอย่างของบริษัทอาลีบาบาที่มียอดขายหลายหมื่นล้านบาทต่อปี ก็ใช้วิธีการบริหารแบบนี้ โดยการโอนงานขนส่งสินค้าทั้งหมดไปให้กับบริษัทอื่นภายนอกบริษัททำ

 

การรู้จักเลือกตัดแบ่งงานที่ไม่ใช่หัวใจสำคัญในธุรกิจออก ไปให้กับผู้รับช่วงย่อยทำแทน นอกจากจะทำให้บริหารความเสี่ยงของต้นทุนได้แล้ว ยังสามารถทำให้มีเวลาในการควบคุมเรื่องสำคัญๆ เช่น คุณภาพของบริการและกำหนดเวลาส่งมอบงานได้ดีมากขึ้นอีกด้วย

 

3) ลูกค้าเชื่อมั่นในการชำระเงินผ่านคนกลางอย่างอาลีบาบา บนระบบที่เรียกว่าอาลีเพย์ เพราะมั่นใจว่าเงินในธนาคารของตนจะถูกหักเพื่อจ่ายค่าสินค้า ก็ต่อเมื่อตัวเองได้รับสินค้าที่ถูกต้องตามที่โฆษณาและตามที่ตกลงกันไว้แล้วเท่านั้น การมีคนกลางที่ช่วยดูแลเงื่อนไขการให้บริการ หรือคุณภาพของสินค้าที่ตกลงทำสัญญากันหรือตกลงซื้อขายกันนั้น ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า ให้มั่นใจที่จะหันมาใช้บริการของทีมงานหรือของบริษัทที่มีขนาดเล็กได้มากขึ้น พูดง่ายๆก็คือ คนกลางที่เข้ามา เหมือนเป็นคนที่ช่วยขยายเครดิตความน่าเชื่อถือ ให้กับบริษัทหรือทีมงานขนาดเล็ก ให้มีความน่าเชื่อถือ เทียบเคียงกับบริษัทหรือทีมงานที่มีขนาดใหญ่กว่าได้ การใช้คนกลางที่ช่วยเป็นทั้งตลาดกลางและเป็นคนขยายเครดิตให้เช่นนี้ จึงกลายเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่กำลังเป็นที่นิยมและเป็นความจำเป็นมากขึ้นในปัจจุบัน

อ่านบทความอื่นๆ ได้ที่ https://blog.buildman.biz/

อ้างถึง

  • https://www.finnomena.com/investment-reader/alibaba/
  • https://techsauce.co/tech-and-biz/5-lessons-for-startups-from-alibabas-world
  • https://thaipublica.org/2017/01/pridi22/
Posted in Uncategorized.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *