How to make your home free of geckos, lizards, arachnids

วิธีทำให้บ้าน ปลอด ตุ๊กแก จิ้งจก แมงสาบ

How to make your home free of geckos, lizards, arachnids

วิธีทำให้บ้าน ปลอด ตุ๊กแก จิ้งจก แมงสาบ

สัตว์ที่หลายคนมักเกลียดเเละกลัวกันเเบบสุดๆ และเจ้าพวกนี้ก็แอบอาศัยอยู่ในบ้านของเราด้วย นั่นก็คือ แมลงสาบ จิ้งจกเเละตุ๊กแก อีกทั้งอาจจะมี หนู ที่เป็นสาเหตุของโรคที่เป็นอันตรายต่อผู้อาศัย โดยเฉพาะหากสัตว์เหล่านั้นวนเวียนอยู่ใกล้ๆตัว หรือพบเจอได้บ่อยในบ้านเรือนที่เราพักอาศัยด้วย ต่อให้เป็น บ้าน สร้าง เอง หรือ แบบ บ้าน หรูหรา แค่ไหนก็ตาม หากขาดการดูแล หรือ มีปัจจัยเอื้อประโยชน์ให้พวกสัตว์เหล่านี้ได้เข้ามาอาศัย ก็อาจก่อให้เกิดการรบกวนและความไม่สบายใจกับเจ้าของบ้านและสมาชิกในครอบครัวได้ จึงจำเป็นต้องเข้าใจถึงพฤติกรรมของสัตว์พวกนี้ เพื่อให้ง่ายต่อการกำจัดออกไป ก่อนอื่นถ้าจะกำจัดก็ต้องเริ่มจัดการกันที่ต้นตอ เพราะฉะนั้นเราจำเป็นจะต้องรู้พฤติกรรม การดำเนินชีวิต และสิ่งที่ชักนำสัตว์เเละแมลงเหล่านั้นเข้ามาในบ้าน

แมลงสาบ ที่พบตามบ้านเรือนทั่วไปคือ แมลงสาบเยอรมัน และแมลงสาบอเมริกัน โดยลักษณะ พฤติกรรม และแหล่งอาศัยภายในบ้าน จะมีลำตัวสีน้ำตาลอ่อน ยาว ขนาดประมาณครึ่งนิ้ว ปีกยาวทั้งสองเพศ บินเก่ง มีอายุประมาณ 3 เดือนชอบอากาศอบอุ่น ตัวเต็มวัย 7–10 วันจเริ่มผสมพันธุ์ ตัวเมียที่มีไข่จะลากเกราะหุ้มไข่ติดกับท้องตลอดเวลาจนกว่าไข่จะสุก ประมาณ 2–4 สัปดาห์ และที่น่าตกใจคือ สามารถแพร่พันธ์ุได้เอง โดยไม่ต้องพึ่งเพศผู้แต่อย่างใด
สำหรับนิสัยของแมลงสาบจะชอบอยู่เป็นกลุ่ม ตามซอกมุมภายในบ้าน-นอกบ้าน ไม่ชอบแสงสว่าง เราจึงมักไม่ค่อยพบแมลงสาบในเวลากลางวัน แต่พวกมันจะออกมาหาอาหารและทำกิจกรรมต่าง ๆ ในเวลากลางคืนและในที่มืด
การวางอาหารทิ้งไว้ หรือทำเศษอาหารตกหล่นเลอะเทอะ จึงเหมือนเป็นการเรียกให้แมลงสาบมาหา เพราะแมลงสาบกินอาหารได้เกือบทุกชนิด โดยมันมักจะวางกระเปาะไข่ในบริเวณที่ตัวอ่อนสามารถมีชีวิตอยู่รอดได้ง่าย เช่น ตามซอกอับชื้นภายในบ้าน หรือใกล้บริเวณที่มีน้ำและอาหาร จึงมักพบเห็นได้บ่อยในห้องน้ำและห้องครัว

อันตรายจากแมลงสาบ
เป็นตัวการนำเชื้อโรคโดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของโรคร้ายต่าง ๆ ได้แก่ โรคเรื้อน กาฬโรค โรคบิด โรคท้องเสียในเด็ก โรคติดเชื้อของช่องขับถ่าย (Urinary tract) โรคฝี ผิวหนังพุพอง โรคในระบบทางเดินอาหาร โรคอาหารเป็นพิษ และโรคไทฟอยด์ ทั้งยังเป็นพาหะ หนอนพยาธิ เชื้อไวรัส โปรโตซัว และเชื้อรา

วิธีการกำจัดแมลงสาบ
พยายามรักษาทำความสะอาดบ้านอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในครัว อย่าปล่อยให้มีเศษอาหาร เเละคราบสะสม ทั้งการวางทิ้งไว้ หรือเศษอาหารที่ตกหล่นตามพื้น จัดการพื้นที่อับชื้น และปิดฝาท่อระบายน้ำด้วยผลิตภัณฑ์ที่กันแมลงได้
นอกจากนี้เฟอร์นิเจอร์ที่มีมุมอับ หรือเฟอร์นิเจอร์ไม้อัดโดยเฉพาะ MDF ที่อับชื้น รวมทั้งลังกระดาษยังอาจเป็นแหล่งวางไข่ให้เหล่าแมลงสาบได้อีกด้วย ดั้งนั้นจึงควรกำจัดเสีย

การไล่ด้วยวิธีธรรมชาติ
1. สบู่ผสมน้ำ สามารถแก้กลิ่นอับชื้น และไล่แมลงสาบได้
2. พริกไทย เหล่าแมลงสาบจะระคายเคืองเมื่อเราใช้พริกไทยผสมน้ำไปฉีดพ่นไว้ตามแหล่งที่พบเจอแมลงสาบอาศัยอยู่ หรือง่ายกว่านั้นก็นำพริกไทยเม็ดไปวางในมุุมก็ช่วยได้
3. ใบกระวาน ใบเตย ใบยูคาลิปตัส หรือไม้ใบจำพวกที่มีน้ำมันหอมระเหย จะทำให้เหล่าแม่งสาบไม่อยากเข้าใกล้ ลองเลือกกลิ่นที่ชอบ แล้วนำไปไว้ในจุดอับของบ้านดู รับรองช่วยได้แน่ ๆ
4. เปลือกผลไม้ เช่น เปลือกส้ม เปลือกมะนาว หรือผลไม้ที่เปลือกมีน้ำมันซิตรัส สามารถช่วยไล่แมลงและแม้แต่จิ้งจกได้เป็นอย่างดี
5. น้ำมันสะเดา ผสมน้ำฉีดพ่นตามจุดที่พบแมลงสาบจะสามารถช่วยไล่แมลงสาบได้

การกำจัดด้วยวิธีเคมี
1. ยาเบื่อแมลงสาบ สามารถนำไปใส่ในอาหารเพื่อวางล่อไว้ให้แมลงสาบกินได้
2. ลูกเหม็น หรือ Naphthalene ใช้ใส่ในที่อับเพื่อไล่แมลง แต่ก็ควรระวังเด็กเล็กนำเข้าปาก เพราะอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
3.เบกกิ้งโซดา สามารถนำมาผสมกับน้ำตาลได้ ล่อให้มากินจะทำให้แมลงสาบตาย เนื่องจากเกิดแก๊ซในกระเพาะมากเกินไป
4. ผงกรดบอริก สำหรับใช้ในการเกษตร สามารถนำมาใช้ไล่แมลงสาบได้เช่นเดียวกัน แต่ควรจัดการทำความสะอาดทันทีเมื่อเห็นว่าแมลงสาบตายหมดแล้ว
5. กับดักแมลงสาบ มีทั้งแบบกาว และแบบอาหารล่อ
6. ยาฆ่าแมลง หรือ DDT สามารถใช้ฆ่าแมลงสาบได้ แต่ก็มีผลเสียเรื่องสารพิษตกค้างที่่อาจเกิดอันตรายกับผู้ใช้หรือผู้อาศัยในบ้านเช่นกัน


จิ้งจก เป็นสัตว์เลื้อยคลานที่อยู่ใกล้ชิดกับคนเรามากที่สุด ซึ่งพบได้ทั่วไปตามบ้านเรือน ชอบอาศัยตามซอกมุม หรือตู้เสื้อผ้า และออกหากินแมลงตามแหล่งที่มีเเสงไฟ จิ้งจกมีข้อเสียมากกว่าประโยชน์ เช่น จิ้งจกมักร้องเสียงดังน่ารำคาญ และมักถ่ายมูลติดเปื้อนข้าวของ
จิ้งจก มีลำตัวขนาดเล็ก จากหัวถึงปลายหางประมาณ 8-10 เซนติเมตร สามารถเปลี่ยนสีได้ ผิวหนังดูผิวเผินจะเรียบ แต่หากส่องกล้องดูจะพบเป็นตุ่ม หรือเกล็ดปกคลุม มีมุมปากยาว อ้าปากได้กว้าง ภายในปากมีลิ้นสั้น แต่ยืดยาวได้ หางสามารถงอกใหม่ได้ หากหางขาด สำหรับไข่จิ้งจกมีลักษณะกลมรี ไข่มีขนาดเล็ก สีคล้ายไข่เป็ด กว้างประมาณ 0.5-0.7 เซนติเมตร ยาวประมาณ 0.7-1.0 เซนติเมตร
แหล่งที่พบ จิ้งจกส่วนมากจะพบได้ง่ายตามอาคารบ้านเรือน ชอบออกหากินในเวลากลางคืน หรือในแหล่งที่มีแสงไฟล่อแมลง ผีเสื้อกลางคืน หรือเเม้เเต่เเมลงสาบอันเป็นอาหารอันโอชะของจิ้งจก สิ่งที่ชักนำให้จิ้งจกเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้าน ก็คือแสงไฟที่ล่อแมลงซึ่งเป็นอาหารของจิ้งจก และซอกลืบในบ้านที่เหมาะสำหรับเป็นที่หลบซ่อนของมัน

อันตรายจากจิ้งจก
แม้ตัวจิ้งจกเองจะไม่มีเขี้ยวเล็บหรือพิษร้ายทำร้ายคนได้ แต่ทว่า ขี้จิ้งจก หรือ มูลจิ้งจก มีเชื้อ ซัลโมเนลล่า(Salmonella)ซึ่งเป็นเเบคทีเรียที่ทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษ โรคไข้รากสาดน้อย หรือไข้ไทฟอยด์ โรคไข้รากสาดเทียม ลำไส้อักเสบ โรคอุจจาระร่วง โลหิตเป็นพิษ อีกทั้งยังสามารถก่อให้เกิดการติดเชื้อรุนแรงในคน เช่น การติดเชื้อในกระแสเลือด เยื่อหุ้มสมองอักเสบในเด็กเล็ก และผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ ทำให้เกิดพิษต่อระบบทางเดินอาหาร ผู้ที่ได้รับเชื้อเข้าไปในปริมาณมากจะทำให้เกิดโรค โดยจะเกิดอาการภายใน 8-48 ชั่วโมง ผู้ป่วยจะมีอาการเป็นไข้ ปวดบิดในท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง และเป็นนานถึง 1-8 วัน แล้วแต่กรณี ในรายที่รุนแรงอาจติดเชื้อเข้าไปในกระแสเลือด เเละเยื่อหุ้มสมอง จนถึงแก่ชีวิตได้ เมื่อรักษาหายแล้ว ผู้ป่วยจะเป็นพาหะนำโรคเป็นเวลานาน และสามารถแพร่โรคจากคนสู่คน

วิธีการกำจัดจิ้งจก
หากจะจัดการที่อยู่ของเหล่าจิ้งจก เราควรจะต้องจัดการบ้านให้รกน้อยที่สุด กำจัดซอกหลืบ เช่น ตู้ลอยตัวที่มีด้านหลังตู้ หรือปิดช่องตามชายประตูให้มิดชิดติดมุ้งลวดตามกรอบบานต่าง ๆ และระมัดระวังแสงไฟที่จะล่อแมลงเข้ามา เพราะถ้ามีแมลงก็จะมีจิ้งจกตามมาด้วยนั่นเอง
หากพื้นที่ใดที่ได้รับแดดดีแล้วก็จะไม่มีจิ้งจกอยู่ในพื้นที่นั้น เพราะจิ้งจกเป็นสัตว์ที่ไม่ชอบแสงแดด
อีกทั้งหากปลูกต้นไม้ไว้รอบบ้านก็จะเป็นที่อยู่อาศัยให้จิ้งจก พวกมันจะได้ไม่ต้องเข้ามาในบ้าน

การไล่ด้วยวิธีธรรมชาติ
1. ไม้ใบที่มีน้ำมันหอมระเหย และผลไม้ที่เปลือกมีน้ำมันซิตรัส เช่นเดียวกับแมลงสาบ สามารถใช้วิธีเดียวกันได้ ซึ่งเหล่าสมุนไพรไล่จิ้งจกก็ใช้ส่วนผสมจากสิ่งเหล่านี้นั่นเอง
2. ควันไฟ จากธูปหอม ถ่าน หรือสมุนไพร ควันใด ๆ ก็ตามล้วนเป็นสิ่งที่จิ้งจกไม่ชอบ
3. หัวหอม ไม่ว่าจะหอมใหญ่ หอมแดง หรือแม้แต่กระเทียมคนยังน้ำตาไหล จิ้งจกเองก็ไม่ชอบเช่นกัน โดยนำมาหั่นเป็นแว่น ๆ แล้ววางตามจุดที่พบตัวได้เลย
4. การบูร นอกจากจะช่วยไล่แมลงได้แล้ว ยังช่วยไล่จิ้งจกได้อีกด้วย
5. เลี้ยงแมว เพราะแมวชอบจับจิ้งจก แต่อย่าตกใจตอนน้องแมวเอาเหยื่อมาฝากก็แล้วกัน

การกำจัดด้วยวิธีเคมี
1. ลูกเหม็น หรือ Naphthalene ยังเป็นวิธีที่ไล่สัตว์ไม่พึงประสงค์ได้เสมอ
2. น้ำมันก๊าด เจอตรงไหน เอาผ้าชุบน้ำมันก๊าดไปทาตรงนั้น จิ้งจกจะลดน้อยลงในทันที
3. กับดักแมลงสาบ ด้วยขนาดพอ ๆ กัน บ่อยครั้งที่เราจะเจอจิ้งจกติดกับดักของแมลงสาบด้วย เรียกว่ายิ่งปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยทีเดียว

ตุ๊กแก ที่เรามักพบเจอนั่นก็คือ “ตุ๊กแกบ้าน” ซึ่งเจ้าตัวนี้นอกจากจะมีพิษภัยแล้ว ยังแอบมีความดุร้ายหากถูกรบกวน แต่หากไล่กันดี ๆ ก็ถือได้ว่าเป็นประโยชน์ต่อระบบนิเวศ ในแง่ของการที่ตุ๊กแกเป็นสัตว์ควบคุมแมลงในธรรมชาติ ตุ๊กแกบ้าน มีสีสันที่หลากหลายมาก เช่น น้ำตาล เทา ดำ เเละฟ้าอ่อน ความยาวเมื่อโตเต็มที่ประมาณ 30 เซนติเมตร ออกหากินเวลากลางคืน โดยกินแมลงเป็นอาหารหลัก และอาจกินสัตว์ขนาดเล็กอย่างอื่นด้วย เช่น ไข่นก หรือลูกนก นกขนาดเล็ก หนู หรือสัตว์ฟันแทะขนาดเล็กอื่น ๆ

ตุ๊กแกจะวางไข่ครั้งละ 2-3 ฟอง ไข่สีขาว รูปทรงครึ่งวงกลม วางติดกับไม้ ผนังบ้าน ตามซอกผนัง หรือโพรงไม้
ตุ๊กแกจะชอบอยู่อาศัยบริเวณที่มีต้นไม้ ตามบ้านเรือนที่เป็นมุมมืด ปราศจากการรบกวน ก็จะเป็นอีกพื้นที่นึงที่ ตุ๊กแกขชชอบมาอาศัย และดักจับแมลงกินเป็นอาหาร

อันตรายจากตุ๊กแก
ตุ๊กแกมีเชื้อแบคทีเรีย ซัลโมเนลล่า (Salmonella) ที่ก่อให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษ เช่นเดียวกับจิ้งจก และมากกว่านั้นคือตุ๊กแกบางตัวที่มีนิสัยระวังภัย โดยอาจกระโดดกัดผู้ที่เข้าไปไกลถิ่นของมันได้ โดยในปากของตุ๊กแกนั้นมีแบคทีเรียมากมายที่อาจส่งผลให้เกิดโรคบาดทะยัก และติดเชื้อได้ทั้งทางบาดแผลและทางกระแสเลือด

วิธีการกำจัดตุ๊กแก
 
วิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้ตุ๊กแกไม่เข้ามาในบ้าน คือการจัดบ้านและตรวจเช็คพื้นที่ต่างๆในบ้านอยู่เสมอ เพราะสาเหตุที่ ตุ๊กแกชอบแอบเข้ามา อาศัยในบ้านเพื่อต้องการที่จะเข้ามาวางไข่ หรือจะติดมุ้งลวดที่ประตูหรือหน้าต่างเพื่อป้องกันไม่ให้ตุ๊กแกเข้ามา
อีกส่วนหนึ่งที่มักพบได้บ่อยคือ การที่บ้านกับสวนนั้นอยู่ติดกันจนเกินไป เช่นเปิดประตูไปก็เจอต้นไม้ทันที ตุ๊กแกจึงเหมารวมพื้นที่สวนกับบ้านเป็นพื้นที่เดียวกัน จึงควรเว้นระยะห่างจากบ้านกับสวนด้วยการทำ Hard Scape เช่นปูบล๊อกพื้นซัก 1-2 เมตร เพื่อให้ตุ๊กแกเลือกอยู่ในพื้นที่สวนแทน

การไล่ด้วยวิธีธรรมชาติ
1. ใช้สมุนไพรแรง เช่น ยี่โถ ด้วยการนำกิ่งและใบมาขยี้ให้มีกลิ่น หรือใช้ใบสาบเสือ และใบน้อยหน่ามาตำผสมกับน้ำ จากนั้นนำไปวางไว้ในจุดที่พบตุ๊กแก กลิ่นฉุน ๆ ของสมุนไพรเหล่านี้ จะช่วยไล่ตุ๊กแกได้อย่างดี
2. ยาเส้นยาฉุน สามารถนำมาผสมน้ำ แล้วนำไปฉีดพ่นไล่ตุ๊กแกได้เช่นกัน
3. หัวหอม เช่นเดียวกัน ฝานหัวหอม นำมาผสมน้ำทำเป็นขวดสเปรย์ไว้ฉีดพ่นไล่ตุ๊กแกได้

การกำจัดด้วยวิธีเคมี
1. ลูกเหม็น ก็ยังคงเป็นตัวช่วยในการไล่ตุ๊กแกได้ดี
2. ยาฆ่าแมลง อาจจะไม่ถึงตาย แต่ก็คงจะทำให้ตุ๊กแกเลือกที่จะย้ายไปอยู่ที่อื่นได้
3 น้ำมันก๊าด เป็นอีกสิ่งที่ตุ๊กแกไม่ชอบ อาจจะใช้ผ้าชุบแล้วนำไปไว้ในรังตุ๊กแก หรือเช็ดตามจุดที่พบเจอตุ๊กแก เพียงไม่นานตุ๊กแกก็จะไม่อยู่ตรงนั้นอีกต่อไป

คงจะเห็นแล้วว่าวิธีกำจัดแมลงสาบ จิ้งจก ตุ๊กแก นั้นเป็นวิธีที่ทำได้ไม่ยาก แถมยังทำได้ง่ายๆ ด้วยตนเอง อย่าลืมลองนำวิธีเหล่านี้ไปทำตามกันดู ใครสะดวกแบบไหน ก็สามารถลองนำไปใช้กันได้เลย เพียงนำไปปฎิบัติ ลองแล้วได้ผลอย่างไร ก็สามารถแวะมาคอมเม้นท์บอกกันได้ ส่วนถ้าเป็นเรื่อง สร้างบ้าน ไว้ใจให้บิลด์แมนช่วยหาผู้รับเหมาให้ได้

บิลด์แมน เรามีนักออกแบบ และ ผู้รับเหมาที่มีความชำนาญ เชื่อถือได้ให้บริการดูแลเกี่ยวกับการสร้างบ้านครบวงจร การตกแต่งบ้าน รีโนเวทบ้าน พร้อมเป็นที่ปรึกษาให้ไว้ใจให้บิลด์แมน ดูแลเรื่องการสร้างบ้าน สามารถสมัครสมาชิกได้ที่ https://buildman.biz

ตลาดกลางรับเหมาก่อสร้าง ที่จบครบในที่เดียว “ผู้รับเหมา ผู้ออกแบบ วัสดุก่อสร้าง” พร้อมเป็นคนกลางช่วยบริหารสัญญาก่อสร้างฟรี!

สามารถอ่านบทความอื่นๆ ได้ที่   https://blog.buildman.biz/

Posted in สาระความรู้เรื่องบ้าน and tagged , , , , , , , .

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *